Daily News
ปมชู้สาวแค่กุเรื่อง ไอ้อั๋น ร่ำไห้อยากขอขมาพยาบาลสาว เผยปมสังหารที่แท้จริง ด้านสามีลั่น ไม่อโหสิกรรมเด็ดขาด
7:03 AMพล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร.กล่าวว่า สืบเนื่องมาจากเมื่อช่วงวัเช้านที่ 10 มี.ค.2562 เวลาประมาณ 07.30 น. สภ.ภาชีรับแจ้งเหตุ ว่ามีผู้พบศพ ผู้หญิงนอนเสียชีวิตอยู่ในรถยนต์เก๋งยี่ห้อ โตโยต้า รุ่นอัลติส สีขาว หมายเลขทะเบียน ญฉ 5426 กทม. ที่ บริเวณถนนซอยทางเข้าห้องเช่าตรงข้าม รพ.ภาชี ม.2 ต.ภาชี อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา จากนั้นได้ร่วมกับผู้บังคับบัญชา พนักงานสอบสวนเวร แพทย์รพ.ภาชี เจ้าหน้าที่พิสูจน์ หลักฐานจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ชันสูตรพลิกศพผู้เสียชีวิต เมื่อไปถึงพบศพผู้เสียชีวิตทราบชื่อภายหลัง ว่าชื่อ น.ส.ศรีสุภางค์ สุวรรณศิลป์ อายุ 48 ปีอยู่บ้านเลขที่ 12/4 ม.5 ต.ระโสม อ.ภาชี จ. พระนครศรีอยุธยา เป็นพยาบาลวิชาชีพประจาห้องฉุกเฉิน รพ.ภาชี ลักษณะศพถูกทำร้ายนอนคว่ำหน้า ศีรษะอยู่บริเวณเบาะด้านหลังคนขับ สภาพศพถูกของมีคมปาดที่บริเวณลำคอ 3 แห่ง และแทงที่กลางหน้าอกหลายแผล และมีร่องรอยการต่อสู้ ได้ทำการตรวจสถานที่เกิดเหตุ เก็บพยานวัตถุที่พบในที่เกิดเหตุส่งตรวจพิสูจน์ และส่งศพไปชันสูตรพลิกศพที่สถานบันนิติเวช รพ.ธรรมศาสตร
จากการสืบสวนสอบสวนทราบว่า เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2562 เวลาประมาณ 00.30น. นางสาวศรีสุภางค์ สุวรรณศิลป์ ผู้ตาย ได้ออกเวรจากห้องฉุกเฉิน แล้วเดินมาขึ้นรถยนต์เก๋งส่วนตัวของ ผู้ตายซึ่งจอดอยู่ที่ลานจอดรถหน้ารพ.ภาชีจากนั้นได้ขับรถเพื่อจะออกจากรพ.ภาชีขณะที่จอดรถรอเลี้ยว ซ้ายขึ้นถนนสุวรรณศรมุ่งหน้าหนองแค ปรากฏว่าได้มี ผู้ต้องหา นายอั๋น ฟักศิริ อายุ 33 ปี ซึ่งจอดรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ สีขาวทะเบียนบล3777พระนครศรีอยุธยารออยู่ตรงข้ามทางเข้า รพ.ภาชีได้เดินมาที่รถยนต์เก๋งของ ผู้ตายแล้วได้ขึ้นรถ จากนั้นรถยนต์เก๋งของผู้ตายก็ได้ขับขึ้นถนนสุวรรณศร มุ่งหน้าไปทางหนองแค ต่อมา เวลาประมาณ 01.10 น. รถยนต์เก๋งผู้ตายได้ขับมาจากทางด้านสี่แยกภาชีผ่านหน้ารพ.ภาชี แล้วเลี้ยวขวา เข้าไปจอดตรงซอยตรงข้ามรพ.ภาชี ได้มีผู้ต้องหาลงจากรถของผู้ตายฝั่งด้านคนขับ เดินวนมาเช็คที่เปิด ประตูฝั่งข้างคนขับ จากนั้นได้เดินไปขึ้นรถกระบะของผู้ต้องหา ที่จอดอยู่ตรงปากทางเข้ารพ.ภาชีหลบหนี ไปที่บ้านผู้ต้องหาซึ่งอยู่แถววัดวิมลสุนทร มีภาพกล้องวงจรปิดบันทึกภาพผู้ต้องหาขณะเดินออกจากรถจุด ที่พบเหตุ ภาพเส้นทางรถของผู้ต้องหาก่อนเกิดเหตุ หลังเกิดเหตุ ได้นำภาพกล้องวงจรปิด ไปให้พยานดู แล้วยืนยันว่าภาพชายในภาพวงจรปิดคือผู้ต้องหา และรถในกล้องวงจรปิดคือรถของผู้ต้องหา จาก พยานหลักฐานเชื่อว่าผู้ต้องหาได้ก่อเหตุใช้ของมีคมหรือมีดเฉือนคอผู้ตายจนเสียชีวิตจริง
เจ้าหน้าที่ตำารวจจึงได้ร่วมกันบูรณาการสืบสวนสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน ขออนุมัติ หมายจับนายอั๋น ฟักศิริ ต่อศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยาในข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา” ต่อมาจึงได้ทำการ สืบสวนเร่งรัดติดตามจับกุมผู้ต้องหา จนกระทั่งสามารถติดตามจับกุมตัว นายอั๋น ฟักศิริ ไว้ได้
พล.ต.ท.อําพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 เผยต่อว่า สอบถามผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าได้ก่อเหตุดังกล่าวจริง โดยสาเหตุจูงใจ ในการก่อเหตุเกิดจาก ผู้ต้องหาขอยืมเงินจากผู้ตายจำนวนเงิน 3 พัน บาท แต่ไม่ได้และถูกผู้ตายด่าว่าจึงเกิดบันดาลโทสะและได้ก่อเหตุดังกล่าวขึ้น จากนั้นได้นำ สร้อยคอและแหวนของผู้ตายไปขายที่ร้านทอง ใน เขต .อ.เสนา เพื่อนำเงินมาใช้จ่าย ซึ่งแท้จริงแล้วผู้ต้องหาจะไปยืมเงินคนชื่อตู่ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของโรงพยาบาล แต่ระหว่างนั้นพบผู้ตายเดินออกมาหลังจากออกเวรซึ่งรู้จักคุ้นเคยเป็นอย่างดีเนื่องจากเคยยืมเงินกันมาก่อนหน้านี้อีกทั้งยังเคยเป็นเพื่อนร่วมงานกัน ซึ่งไม่มีการนัดกันล่วงหน้าแม้แต่อย่างใด จนกระทั่งปรากฏตามภาพจากกล้องวงจรปิด ทั้งนี้ผู้ต้องหายอมรับสารภาพในส่วนของคดีเพียงเท่านั้นส่วนเรื่องความสัมพันธ์กับผู้ตายยังไม่ได้พูดถึงแม้แต่อย่างใด ส่วนนายอั๋น หรือน็อต ฟักศิริ อายุ 33 ปี ผู้ต้องหานั้น จากการสอบสวนในห้องมีสีหน้าเคร่งเครียดและร้องไห้โดยบอกกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าสำนึกผิดและอยากขอขมา ผู้เสียชีวิตและครอบครัวผู้เสียชีวิตที่ก่อเหตุลงมือฆ่าในครั้งนี้ เบื้องต้น สามีของผู้เสียชีวิตและครอบครัว ยืนยันไม่ให้ผู้ต้องหามาขอขมาแล้วก็บอกว่าเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ใช้เป็นเรื่องชู้สาวตามที่มีข่าวเสนอไปก่อนหน้านี้ โดยหลังจากนี้จะควบคุมตัวผู้ต้องหา ไปฝากขัง ที่ศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
cr; https://www.siamnews.com
0 comments
Note: Only a member of this blog may post a comment.