Close
Advertiser

ไม่ปล่อยไว้ ไล่ออกแล้ว อาสาสมัครกร่าง ก่อเรื่อง ทำร้ายเด็ก 2 ขวบ

ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 09.30 น. ของวันที่ 27 มี.ค.62 พ.ต.อ.ชิดเดชา สองห้อง ผกก.สภ.หนองปรือ เปิดเผยว่า เหตุการณ์นี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได...


ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 09.30 น. ของวันที่ 27 มี.ค.62 พ.ต.อ.ชิดเดชา สองห้อง ผกก.สภ.หนองปรือ เปิดเผยว่า เหตุการณ์นี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งด่านบริเวณซอยเขาตาโล จากนั้น น.ส.กัลยา ตมกลาง อายุ 25 ปี ผู้เสียหาย ได้ขับขี่รถ จยย.มาโดยพ่อเด็กเป็นผู้ขับขี่ เจ้าหน้าที่จึงเรียกรถหยุด แต่พ่อเด็กกลับขับหลบหนี เจ้าหน้าที่อาสาที่อยู่ริมทางจึงใช้ไม้ข้างทางสกัด จากนั้นผ่านไปไม่นาน น.ส.กัลยา ตมกลาง ได้กลับมาพร้อมเด็กชายโดยให้บุคคลอื่นพามา แล้วบอกเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำด่านว่า ถูกอาสาตีได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงพาไปส่ง รพ.บางละมุง เพื่อรักษาบาดแผลในเบื้องต้น


พ.ต.อ.ชิดเดชา สองห้อง เปิดเผยอีกว่า ทั้งนี้ รู้ตัวเจ้าหน้าที่อาสาสมัครคนดังกล่าวแล้ว ทราบชื่อ นายจักรภพ บุญรอด เบื้องต้นจะทำการเรียกตัวมาสอบสวนถึงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ในช่วงบ่ายของวันนี้ ขณะที่เรื่องของคดีคงต้องแยกส่วนกัน คือ รับแจ้งจากพ่อเด็กคดีทำร้ายร่างกาย การเรียกสอบอาสาที่ก่อเหตุ และการเยียวยาเด็กที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งยืนยันว่าจะทำคดีให้เกิดความเป็นธรรมสูงสุด
ต่อมาเมื่อเวลา 10.30 น. นายสิวา นิลขำ อายุ 28 ปี พ่อของ เด็กชายศิลา นิลขำ หรือน้องแซม อายุ 2 ปี 1 เดือน ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.หนองปรือ เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับอาสาที่ก่อเหตุ รวมทั้งให้ปากคำเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและยืนยันความบริสุทธิ์ของตน พร้อมให้ตรวจปัสสาวะหายาเสพติดเอง ซึ่งปรากฏว่าผลเป็นม่วงซึ่งก็ยอมรับว่า 2-3วันที่แล้วเสพมาและเคยโดนคดีมาแล้ว แต่การที่อาสามาทำร้ายบุตรชายคราวนี้มันคนละเรื่องและจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ซึ่งก็หวั่นว่าจะได้รับความเป็นธรรมเช่นกัน

ไม่ปล่อยไว้ ไล่ออกแล้ว อาสาสมัครกร่าง ก่อเรื่อง ทำร้ายเด็ก 2 ขวบ


ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 09.30 น. ของวันที่ 27 มี.ค.62 พ.ต.อ.ชิดเดชา สองห้อง ผกก.สภ.หนองปรือ เปิดเผยว่า เหตุการณ์นี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งด่านบริเวณซอยเขาตาโล จากนั้น น.ส.กัลยา ตมกลาง อายุ 25 ปี ผู้เสียหาย ได้ขับขี่รถ จยย.มาโดยพ่อเด็กเป็นผู้ขับขี่ เจ้าหน้าที่จึงเรียกรถหยุด แต่พ่อเด็กกลับขับหลบหนี เจ้าหน้าที่อาสาที่อยู่ริมทางจึงใช้ไม้ข้างทางสกัด จากนั้นผ่านไปไม่นาน น.ส.กัลยา ตมกลาง ได้กลับมาพร้อมเด็กชายโดยให้บุคคลอื่นพามา แล้วบอกเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำด่านว่า ถูกอาสาตีได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงพาไปส่ง รพ.บางละมุง เพื่อรักษาบาดแผลในเบื้องต้น
พ.ต.อ.ชิดเดชา สองห้อง เปิดเผยอีกว่า ทั้งนี้ รู้ตัวเจ้าหน้าที่อาสาสมัครคนดังกล่าวแล้ว ทราบชื่อ นายจักรภพ บุญรอด เบื้องต้นจะทำการเรียกตัวมาสอบสวนถึงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ในช่วงบ่ายของวันนี้ ขณะที่เรื่องของคดีคงต้องแยกส่วนกัน คือ รับแจ้งจากพ่อเด็กคดีทำร้ายร่างกาย การเรียกสอบอาสาที่ก่อเหตุ และการเยียวยาเด็กที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งยืนยันว่าจะทำคดีให้เกิดความเป็นธรรมสูงสุด
ต่อมาเมื่อเวลา 10.30 น. นายสิวา นิลขำ อายุ 28 ปี พ่อของ เด็กชายศิลา นิลขำ หรือน้องแซม อายุ 2 ปี 1 เดือน ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.หนองปรือ เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับอาสาที่ก่อเหตุ รวมทั้งให้ปากคำเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและยืนยันความบริสุทธิ์ของตน พร้อมให้ตรวจปัสสาวะหายาเสพติดเอง ซึ่งปรากฏว่าผลเป็นม่วงซึ่งก็ยอมรับว่า 2-3วันที่แล้วเสพมาและเคยโดนคดีมาแล้ว แต่การที่อาสามาทำร้ายบุตรชายคราวนี้มันคนละเรื่องและจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ซึ่งก็หวั่นว่าจะได้รับความเป็นธรรมเช่นกัน
นาย สิวา กล่าวต่อไปว่าก่อนเกิดเหตุ ระหว่างออกมาซื้อกับข้าวกับภรรยาและลูกชาย ได้พบด่านตรวจบริเวณซอยเขาตาโล ด้วยความที่ตนเองไม่ได้ใส่หมวกกันน็อค และ พรบ.ขาด จึงวนรถกลับ ก่อนถึงด่านประมาน 300 เมตร จากนั้นได้มีอาสาสมัครใส่เสื้อคลุมสีดำ ออกมาขวางก่อนใช้ไม้ฟาดจนถูกน้องแซมที่นั่งหน้าสุดจนได้รับบาดเจ็บ แม้จะพยายามตะโกนบอกแล้วว่ามีเด็กอย่าตี แต่ก็ไม่ได้รับความปราณีเลย หลังเกิดเหตุตน และภรรยา พร้อมเพื่อนได้กลับไปที่ด่านเพื่อแจ้งตำรวจหัวหน้าด่านให้รับทราบ ก่อนเดินทางไปรักษาบาดแผลที่โรงพยาบาล และแจ้งความในเวลาต่อมา ส่วนอาการบาดเจ็บของน้องแซมขณะนี้ยังอยู่ในความดูแลของแพทย์ซึ่งจะต้องรอดูอาการต่อไป
ด้าน นายจักรภพ บุญรอด อายุ 23 ปี (อาสาตำรวจ สภ.หนองปรือ) ได้รายงานเหตุการณ์ ไปว่า ขณะร่วมเป็นอาสาตำรวจ ตั้งด่าน อยู่บริเวณดังกล่าว ได้เรียกให้รถจักรยานยนต์หยุด แต่นายศิวา พ่อเด็ก ไม่ยอมหยุด แต่กลับเร่งความเร็ว เพื่อหลบหนี นายจักรภพ หยิบไม้ บริเวณข้างทาง ออกมาเพื่อกันไว้ แต่ ผู้ขับขี่ได้ก้มตัวหลบ เป็นเหตุให้ไม้ตวัดไปถูกศรีษะน้องแซม ซึ่งนั่งอยู่ตรงกลางระหว่างผู้ขับขี่และผู้ซ้อนท้าย ได้รับบาดเจ็บเป็นแผลแตกหางคิ้วขวา

อาสาตำรวจ บอก ใช้ไม้ที่หาได้ ข้างทาง กั้น รถจักรยานยนต์ ที่กำลังหลบหนี และคนขี่หลบ เลยถูกเด็ก ตามคำอธิบาย
ทนาย เดชา กิตติวิทยานันท์ โพสต์เพจเฟซบุ๊ก “ทนายคลายทุกข์” ว่า “เข้าข่ายพยายามฆ่า” ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288 และมาตรา 80
“อาสาตำรวจไม่มีอำนาจตั้งด่านตรวจค้นจับกุมและทั้งเมื่อดูจากอาวุธที่ใช้ในการทำร้าย และดูจากอวัยวะของผู้ถูกกระทำคือบริเวณศีรษะ และดูจากพฤติการณ์ในการตีของผู้กระทำความผิด กรณีนี้อาจเข้าข่ายความผิดฐานพยายามฆ่าเพราะเล็งเ

เห็นผลว่าตีเข้าไปแล้วผู้เสียหายคือเด็กอาจตายได้ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288 และมาตรา 80 รับโทษสองในสาม”
และนอกจากนี้ทนายชื่อดังยังกล่าวอีกว่า “อาสาตำรวจหรืออาสาจราจรไม่ใช่เจ้าพนักงานไม่มีกฎหมายใดใดให้อำนาจในการตรวจค้นจับกุมหรือตั้งด่าน มีแต่อำนาจเถื่อนเท่านั้นนอกจากนี้ตำรวจที่รับผิดชอบและนำพวกอาสาเหล่านี้มาร่วมในการทำงานอาจต้องร่วมรับผิด ในฐานะเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบเป็นเหตุให้บุคคลอื่นได้รับความเสียหายโดยตรงเป็นพิเศษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 มีโทษจำคุกสูงสุดถึง 10 ปี
“ควรทำเป็นคดีตัวอย่าง เพราะนับวันพวกอาสาสมัครทั้งหลายจะลุแก่อำนาจไปตั้งด่านตรวจค้นจับกุมโดยที่ไม่มีกฎหมายให้อำนาจเป็นการละเมิดสิทธิตามรัฐธรรมนูญ เพราะบุคคลทุกคนเสมอกันตามกฏหมายตามแล้วธรรมนูญมาตรา 27 บุคคลธรรมดาจึงไม่สามารถจับคนอื่นได้”
ล่าสุด เพจ อธิปบูรพา โพสต์คลิปพร้อมข้อความว่า โอ๋ สุดสาคร ส.กลิ่นมี นักชกไทยไฟต์ชื่อดัง พร้อมกลุ่มนักมวยในค่าย ได้เดินทางมาด้วยเช่นกัน โดยเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ที่มาวันนี้เพียงต้องการมาดูหน้าเท่านั้น ไม่มีเจตนาอื่น แต่อยากให้อาสาสมัครตระหนักในหน้าที่และขอบเขตงานของตน ในฐานะที่ตนเคยเป็นอาสาสมัครมาก่อน อาสาสมัครมีหน้าที่ช่วยเหลือดูแลประชาชน ไม่ใช่ทำร้ายประชาชน มิหนำซ้ำเหตุการณ์ยังเกิดกับเด็กวัยเพียง 2 ขวบ ซึ่งถือว่าไม่ถูกต้องอย่างมาก
ขณะที่นายจักร อาสาที่ก่อเหตุนั้นทราบว่าทำงานอาสามานานเกือบ 10 ปีแล้ว ปกติก็เป็นคนดีช่วย เหลืองานราชการเป็นอย่างดี และจากการพูดคุยเบื้องต้นเจ้าตัวก็รู้สึกเสียใจร้องไห้ตลอดเวลาและอยากไปเยี่ยมอาการของเด็กแต่เห็นว่าไม่เหมาะสมจึงระงับไว้ก่อน ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นทราบว่ามีการตั้งด่านตรวจรถผิดกฎหมายจริงในเวลา 22.00 น.ของคืนเกิดเหตุ โดยทางเจ้าหน้าที่มอบหมายให้ทางอาสาได้คอยดักรถที่พยายามหลบหนี กระทั่งมาเจอเคสของครอบครัวนี้ ซึ่งนายจักรภพ อาสาสมัครยืนยันว่าไม่ได้ตีตามที่พ่อเด็กบอก เพียงแต่เอาไม้กั้นไว้แต่พ่อเด็กขับรถเร็วและเบี่ยงหลบไม้จึงตวัดไปโดนที่ศีรษะเด็กเท่านั้น อย่างไรก็ตามก็เป็นสิทธิ์ที่แต่ละคนจะให้การแต่ก็ถือว่าเป็นการกระทำเกินกว่าเหตุ ซึ่งก็จะต้องทำการสอบข้อเท็จจริงต่อไป
ล่าสุด พ.ต.ท.กฤษณ์ มาสุข รอง ผกก.ป.กล่าวว่า ปัญหาของอาสาสมัครที่มักจะมีกระแสว่าทำตัวกร่างและเกินกว่าเหตุนั้น ยอมรับว่า เรื่องนี้คงมีอยู่บ้างแต่อาจไม่รุนแรง อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นเรื่องที่เกิดขึ้นทาง สภ.หนองปรือ คงจะหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบไม่ได้ และคงจะสั่งระงับการทำงานของอาสาทั้งหมด พร้อมให้ผู้กระทำผิดพ้นจากการปฏิบัติหน้าที่ไป จากนั้นจึงจะมาอบรมและคัดกรองความประพฤติและประวัติของผู้ที่จะเข้ามาช่วยงานโดยละเอียดก่อนที่จะมอบหมายหน้าที่ให้มาช่วยเหลืองานราชการต่อไป

You Might Also Like

0 comments

Note: Only a member of this blog may post a comment.

Flickr Images