Hot News
ยังขนลุก!! เรือมณีสายชลล่ม ช่วยได้ 23 หาย 2 วันนี้เจอเรือแล้ว เรือกลับมาเองลอยโผล่ที่ตรงนี้ โครตน่าเหลือเชื่อ!???
11:00 PM
หลังจากเรือมณีสายชลล่มกลางแม่น้ำป่าสัก บริเวณท่าน้ำสักไตรภูมิ เขตเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ ระหว่างฝึกซ้อมเมื่อค่ำวานนี้เพื่อเตรียมลงแข่งขันในสนามงานประเพณีอุ้มพระดำน้ำ จนส่งผลให้ฝีพายทั้ง 25 ชีวิตต่างกระเสือกกระสนเอาชีวิตรอดจากการจมน้ำ และเป็นเหตุให้นายอรรถพล พรหมแสง-นายวิทยา ไข่ทอง ฝีพายลูกเรือมณีสายชลทั้งสองคนสูญหายไปกับกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวกราก
จากกรณีที่เรือยาวแม่มณีสายชลที่กำลังซ้อม เพื่อที่จะร่วมแข่งขันในงานประเพณีอุ้มพระดำน้ำล่มที่บริเวณหน้าวัดไตรภูมิโดยสามารถช่วยได้ 23 คน สูญหาย 2 ราย ขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่ละความพยายามก็ยังเดินหน้าค้นหาเต็มกำลัง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าขณะนี้ได้มีการพบเรือลำที่ล่มแล้ว โดยอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 5 กิโลเมตร โดยสภาพเรือไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด มีเพียงรอยถลอกบริเวณหัวเรือเท่านั้น แต่ที่ทำให้ทุกคนต้องประหลาดใจก็คือเรือลำดังกล่าวได้ไปลอยลำอยู่หลังบ้านของช่างที่เป็นผู้ต่อและปรับปรุงเรือลำนี้ อีกทั้งคนต่อเรือลำนี้ยังมีความผูกพันกับเรือลำดังกล่าวมาตั้งแต่ต้น
โดยนายสิทธิโชค เลิศจันทร์ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15/4 หมู่ 9 ต.สะเดียง อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ ผู้ที่ปรับปรุงและซ่อมแซมเรือลำดังกล่าว กล่าวว่า เรือลำดังกล่าวเดิมอยู่ที่จังหวัดน่าน เป็นเรือที่ขุดจากไม้ตะเคียนทั้งลำเรือมีอายุประมาณ 50 ปี ขนาดยาว 23 เมตร กว้าง 92 เซนติเมตร
โดย ดร.วิศัลย์ โฆษิตานนท์ ได้จัดซื้อมาและมอบให้ชุมชน 9 ดาวพัฒนา เพื่อใช้ในการแข่งขันพายเรือทวนน้ำงานประเพณีอุ้มพระดำน้ำ และในการแข่งขันตามงานประเพณีแข่งเรือในพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์เพื่อสร้างความสัมพันธ์ภายในชุมชน โดยได้ซื้อมาเมื่อประมาณปี 2553/54
จากนั้นได้ให้ตนเป็นคนปรับปรุงซ่อมแซมหรือที่เรียกว่า "ทำสาว" โดยได้ตั้งชื่อใหม่ว่า "เรือมณีสายชล" ซึ่งเป็นเรือลำแรกที่ตนทำในอาชีพซ่อมแซมเรือยาว และเมื่อซ่อมแซมเสร็จ ตนก็ยังได้ร่วมเป็นฝีพายในเรือลำดังกล่าวทุกครั้งที่มีการแข่งขัน จึงทำให้มีความผูกพันกับเรือลำนี้มาก แต่ในปีนี้ติดภารกิจจึงไม่ได้ลงเป็นฝีพายด้วย
นายสิทธิโชค เลิศจันทร์ กล่าวต่อว่า ในช่วงเกิดเหตุตนก็นั่งชมการซ้อมอยู่ แต่จู่ ๆ ไฟฟ้าบริเวณดังกล่าวก็ดับลงพร้อมมีคนตะโกนบอกว่าเรือล่ม ตนจึงได้รีบเหวี่ยงเชือกลงไปช่วยเหลือฝีพายที่ตะเกียกตะกายอยู่ในน้ำ และสามารถช่วยมาได้จำนวนหนึ่ง จากนั้นเรือก็ได้จมหายไปกับสายน้ำ ซึ่งตนก็ห่วงแต่ช่วยคนจึงไม่ได้เห็นว่าเรือจมลงในลักษณะใด
กระทั่ง เวลาประมาณ 5 ทุ่ม หน่วยค้นหาได้พบว่าเรือลำดังกล่าวได้มาลอยคว่ำอยู่ใกล้กับหลังบ้านตนเอง จึงรู้สึกประหลาดใจอย่างมาก โดยเฉพาะชาวบ้านต่างก็วิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นความศักดิ์สิทธิ์ของแม่ย่านาง ประจำเรือ หรืออาจจะเป็นไปได้ว่าแม่ย่านางอยากจะสื่ออะไรบางอย่างกับตนเอง
0 comments
Note: Only a member of this blog may post a comment.